โดยธรรมชาติเด็กทุกคนมีความต้องการให้ตัวเองเป็นที่ชื่นชมของพ่อแม่ และบุคคลรอบข้าง
มีเด็กหลายคนต้องการกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ไม่ได้ตามวัย เพราะได้รับการเลี้ยงดูไม่ถูกวิธี อารมณ์ไม่ได้ตามวัย เพราะได้รับการเลี้ยงดูไม่ถูกวิธีอารมณ์เหล่านี้จะมีผลเสียต่อบุคคลิกภาพ และการปรับตัวทางสังคมในวัยผู้ใหญ่ เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระมัดระวังในการเลี้ยงดูบุตรหลาน
ลูกอารมณ์ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
มีการศึกษาวิจัยพบว่า การที่แม่มีความสุขในระยะตั้งครรภ์มีการสัมผัสลูบท้องบ่อยๆ ทั้งจากผู้เป็นแม่และพ่อของเด็ก การได้ฟังเสียงดนตรีไพเราะอยู่เป็นประจำจะมีผลต่อเด็กในครรภ์ ทำให้เด็กมีความสุข มีความอดทนต่อภาวะเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ดีกว่าที่แม่ไม่มีความสุขในระยะตั้งครรภ์
พ่อแม่ช่วยให้ลูกอารมณ์ดีได้อย่างไร?
1. พ่อแม่ควรปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรในการเลี้ยงดูลูก โดยมีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส ไม่โกลาหลวุ่นวายและขุ่นมัวกับ ชีวิตประจำวัน ไม่ทำตัวเป็นพ่อแม่ขี้โมโห เจ้าอารมณ์
2. ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเลี้ยงเด็ก ในที่นี้สิ่งแวดล้อมรวมถึงบุคคลรอบข้าง บรรยากาศ สภาพที่อยู่อาศัย พี่น้อง เพื่อนเล่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีผลต่ออารมณ์ของเด็กทั้งสิ้น
จากรายงานการสำรวจเด็กเล็ก 2 กลุ่ม โดนกลุ่มแรก เด็กอยู่สภาวะแวดล้อมที่พูดคุยเสียงปกติ ฟังเสียงดนตรีไพเราะไม่อึกทึกครึกโครม กลุ่มที่ 2 เด็กอยู่ท่ามกลางเสียงเอะอะโครมคราม เกรี้ยวกราด มีการขว้างปาของ พูดคุยเสียงดัง และมีเสียงดุว่าภายในเวลา 2 สัปดาห์ปรากฏว่า เด็กกลุ่มที่ 2 จะไม่ยิ้มโกรธง่ายชอบขว้างปาของเล่น ส่งเสียงเอะอะ ทำสียงตะคอก หรือขึ้นเสียงดังกว่าปกติ...
สิ่งแวดล้อมที่สำคัญคือ ผู้ใหญ่อื่นๆนอกจากพ่อแม่ของเด็ก มีหลายคนที่ชอบเย้าแหย่ให้อารมณ์เสีย โกรธง่าย โวยวาย เพราะผู้ใหญ่สนุก แต่มีผลทำให้เด็กติดนิสัยโกรธง่ายและหงุดหงิดกับท่าทีของคนอื่นๆ เนื่องจากมีประสบการณ์ไม่เหมาะสม
3. สุขภาพและสุขนิสัยของเด็กก็มีผลต่อลักษณะนิสัย เด็กที่ไม่แข็งแรงจะไม่ร่าเริงอารมณ์เสียบ่อยกว่าเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงและเด็กอ่อนแอจะถูกห้ามในกิจกรรมการเล่นต่างๆทำให้ไม่มีทางแสดงออกของอารมณ์ ยิ่งหงุดหงิดง่าย หรือกระทั่งการกินนอนไม่ถูกสุขลักษณะ จะทำให้เด็กมีพัฒนาการไม่สมวัย อาจทำให้ถูกล้อเลียน เช่น ฟันผุ ฟันหลอ ผอมหรืออ้วนเกินไป
การถูกล้อเลียนบ่อยๆ จะทำให้เด็กโกรธง่ายฉุนเฉียว มีภาวะทางอารมณ์ไม่มั่นคง
4. การเสริมกิจกรรม หรืองานอดิเรกที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กมีอารมณ์อ่อนโยนเมตตาและอารมณ์ดีอยู่เสมอ เช่นการมีสัตว์เลี้ยงทีพอใจ การปลูกต้นไม้การที่เด็กๆมีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง สุนัขจะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ เด็กๆจะมีความเป็นเจ้าของ มีความผูกพัน ทำให้ต้องช่วยเหลือดูแล และรับผิดชอบ อยากให้ความสนใจ และจะทำให้รู้จักให้อภัยเมื่อเกิดความผิดพลาด
การให้เด็กปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กๆเป็นที่ยอมรับว่าสีเขียวของต้นไม้ทำให้อารมณ์สงบ และการได้ดูแลรักษาต้นไม้ ติดตามการงอกงามเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกเอง
จะทำให้เกิดความภูมิใจ และรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถ ผู้ที่รู้สึกว่าได้ทำอะไรโดยมีผลผลิตปรากฏให้เห็น จะมีความอิ่มใจและอารมณ์ดี เมื่อเด็กๆมีความสุข กิริยาท่าทางจะอ่อนโยน
การแสดงออกต่างๆทางอารมณ์ย่อมแจ่มใสร่าเริงด้วย
5. ให้โอกาสเด็กๆปรับทุกข์และให้แนวทางการคิด เด็กทุกคนมีโอกาสที่จะผิดพลาด หรือพ่ายแพ้ในการเล่น การเรียน ถ้ามีผู้ให้คำปลอบโยน ให้แนวการคิดการปรับตัวที่เหมาะสมจะทำให้เด็กๆได้ทิศทางการ ประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้อง
ลดความกังวล อารมณ์จะปกติและไม่เก็บกด เคียดแค้นหรือเสียใจ ผู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเสียใจ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ อาจเป็นญาติพี่น้องในบ้าน เพื่อน ครู หรือผู้เกี่ยวข้องกับชีวิตของเด็ก
ที่สำคัญอย่าซ้ำเติม หรือประจานความผิดพลาดของเด็กซ้ำซาก การปลอบใจและให้โอกาสเด็กแก้ตัวใหม่จะทำให้เด็กสามารถปรับตัวได้ มีความหวัง มีกำลังใจในการให้โอกาสตัวเองและผู้อื่น
และแน่นอนย่อมเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสุข
Cr: นิตยสารบันทึกคุณแม่ No.153
Video ทดสอบใช้งาน เปลเด็กอ่อน แบบเปลอัตโนมัติ รุ่น Easy GO-B
Video Review และทดสอบใช้งาน เปลไกวไฟฟ้า รุ่น Easy GO-B
เปลนอนเด็ก แบบ เปลไกวไฟฟ้า รุ่น Easy GO-C
ทดสอบการทำงาน เปลไกวอัตโนมัติ แบบเก้าอี้โยก สีฟ้า
การทำงานของ เปลไกวไฟฟ้า แบบเปลไกว สีชมพู
เสียงดนตรีกล่อมเด็กเพราะๆ จาก เปลไกวอัตโนมัติ Primi